ufabet

ภาษีธุรกิจ คืออะไร จำเป็นต้องเสีย ?

การมีความรู้เรื่องภาษีจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการบริหารเงินของเจ้าของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายภาษีเบื้องต้นสำหรับห้างหุ้นส่วน

หรือบริษัทที่นิติบุคคลมีหน้าที่ในการยื่นงบการเงิน การยื่นภาษีนิติบุคคล การหักภาษี ณ ที่จ่าย การเลือกรูปแบบการเสียภาษี รวมไปถึงการลดหย่อนภาษีให้ถูกต้องตามลักษณะการจดทะเบียน โดยเจ้าของธุรกิจสามารถหาความรู้ทางด้านภาษีเบื้องต้นได้เองทางเว็บไซต์ หรืออาจจะใช้บริการ Call Center ของกรมสรรพากร หรือหากไม่มั่นใจจริง ๆ ก็สามารถใช้บริการจัดจ้างที่ปรึกษาทางด้านภาษีได้ครับ การจัดการทางด้านภาษีที่ถูกต้องตั้งแต่ต้นเป็นวิธีบริหารเงินของเจ้าของธุรกิจที่ทรงประสิทธิภาพ โดยจะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบย้อนหลังและประเมินภาษีเพิ่มเติมพร้อมเบี้ยปรับในอนาคต

เป็นค่าใช้จ่ายทางการเงินภาคบังคับหรือการจัดเก็บภาษีประเภทอื่น ๆ ที่เรียกเก็บจากผู้เสียภาษี(เป็นรายบุคคลหรือนิติบุคคล) โดยองค์กรรัฐบาล เพื่อใช้เป็นทุนในการใช้จ่ายภาครัฐและรายจ่ายทางสาธารณะต่าง ๆ การไม่ชำระ รวมถึงการหลีกเลี่ยงหรือต่อต้านการเก็บภาษีนั้นมีโทษตามกฏหมาย ภาษีประกอบไปด้วยภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อมและอาจจะจ่ายเป็นเงินหรือการใช้แรงงานที่มีค่าเท่ากัน การเก็บภาษีนั้นเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยอียิปต์โบราณช่วงประมาณ 3,000 – 2800 ปีก่อนคริสตกาล

ประเทศส่วนใหญ่มีระบบภาษีที่ถูกตั้งไว้เพื่อใช้จ่ายสำหรับสาธารณะ ธรรมดาสามัญ หรือข้อตกลงถึงความต้องการระดับชาติและหน้าที่ของรัฐบาล บางครั้งการเก็บภาษีในอัตราร้อยละคงที่สำหรับรายได้ประจำปีส่วนบุคคล แต่ภาษีมาตราส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินรายได้ต่อปี ประเทศส่วนใหญ่ได้เรียกเก็บภาษีมาจากรายได้ส่วนบุคคลและรายได้นิติบุคคล ประเทศหรือหน่วยงานย่อยมักจะกำหนดภาษีความมั่งคั่ง(wealth taxes) ภาษีการรับมรดก(inheritance taxes) ภาษีกองมรดก(Estate tax) ภาษีของขวัญ(Gift tax) ภาษีทรัพย์สิน(Property tax) ภาษีการขาย(Sales tax) ภาษีการใช้(Use tax) ภาษีเงินเดือน(payroll taxes) และ/หรือภาษีศุลกากร

ufabet

ในแง่เศรษฐกิจ การเก็บภาษีเป็นการโอนย้ายความมั่งคั่งจากครัวเรือนหรือธุรกิจไปยังรัฐบาล

สิ่งนี้มีผลกระทบที่สามารถทั้งเพิ่มขึ้นและลดลงของการเติบโตทางเศรษฐกิจและสวัสดิการทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การเก็บกาษีจึงเป็นหัวข้อที่มีการถกเถียงกันอย่างมาก นิยามทางกฎหมายและเศรษฐกิจของภาษีแตกต่างกันตรงที่นักเศรษฐศาสตร์ไม่พิจารณาว่าการเคลื่อนย้ายทรัพยากรหลายอย่างไปยังรัฐบาลเป็นภาษี ตัวอย่างเช่น ทรัพยากรบางอย่างเคลื่อนย้ายไปยังภาครัฐบาลนั้นเทียบได้กับราคา เช่น ค่าเล่าเรียนที่มหาวิทยาลัยของรัฐและค่าธรรมเนียมซึ่งจัดหาให้โดยรัฐบาลท้องถิ่น รัฐบาลยังได้ทรัพยากรมาโดยการผลิตเงิน (เช่น การพิมพ์ธนบัตรและผลิตเหรียญกษาปณ์), ผ่านของกำนัลโดยสมัครใจ (เช่น การอุดหนุนมหาวิทยาลัยและพิพิธภัณฑ์ของรัฐ), โดยการกำหนดบทลงโทษ (เช่น ค่าปรับจราจร), โดยการกู้ยืม และโดยการยึดทรัพย์สิน จากมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ ภาษีนั้นไม่เกี่ยวกับการลงโทษตามกฎหมาย แต่กระนั้น การบังคับเคลื่อนย้ายทรัพยากรจากเอกชนไปยังภาครัฐบาลก็ยังเรียกเก็บจากพื้นฐานของเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและโดยไม่อ้างอิงถึงประโยชน์ที่ได้รับโดยเฉพาะ

ในระบบการเก็บภาษีสมัยใหม่ ภาษีจะเก็บในรูปตัวเงิน แต่ภาษีอย่างเดียวกัน (in-kind) และแรงงานเกณฑ์ (corvée) เป็นลักษณะของการจัดเก็บภาษีในรัฐและท้องถิ่นโบราณหรือก่อนทุนนิยม วิธีการจัดเก็บภาษีและการใช้จ่ายเงินภาษีของรัฐบาลมักเป็นหัวข้อถกเถียงกันอย่างมากในการเมืองและเศรษฐศาสตร์ กรมสรรพกรซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นผู้จัดเก็บภาษี หากไม่จ่ายภาษีเต็มจำนวน อาจมีการกำหนดบทลงโทษทางแพ่ง (เช่น การปรับหรือการริบทรัพย์) หรือทางอาญา (เช่น การกักขัง) ต่อปัจเจกบุคคลหรือนิติบุคคลนั้น


อ่านบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ casting-source.com อัพเดตทุกสัปดาห์

Releated